ดอกผีเสื้อ (Dianthus) ดอกสวยกินได้

ดอกผีเสื้อ

ดอกผีเสื้อ เป็นดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่กินได้ ที่เรามักเห็นได้บ่อยบนจานอาหาร บอกได้เลยว่าเป็นดอกยอดนิยมที่ใช้ในการจัดจานเป็นอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะวางแบบดอกเดียวสวยๆ เริศๆ หรือจะฉีกเป็นกลีบมาใช้แล้วโรย กลีบดอกมีรสชาติที่อ่อนไม่ฝาด เหมือนดอกไม้กินได้ชนิดอื่นๆ กลีบดอกผีเสื้อสามารถทานพร้อมกับอาหารได้ โดยไม่เสียรสชาติ วันนี้เรารวบรวมข้อมูลของดอกผีเสื้อมาไว้ให้แล้ว

แนะนำข้อมูล ต้นผีเสื้อ

ชื่อ: ดอกผีเสื้อ
ชื่อภาษาอังกฤษ: Dianthus
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dianthus chinensis
วงศ์: Caryophyllaceae
ชื่ออื่นๆ: Pink , India pink , China Pink, Rainbow Pink
ถิ่นกำเนิด: ดอกผีเสื้อเป็นไม้พื้นเมือง ของประเทศญี่ปุน และจีน

ที่มา: ดอกผีเสื้อ (Dianthus) [1]

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้นผีเสื้อ 

ต้นผีเสื้อ มีความสูงประมาณ  15 – 20 cm.
ใบ: รูปแถบเรียวยาว ส่วนปลายของใบมีลักษณะแหลม ขอบใบเรียบ ใบสีเขียว ก้านของใบสั้น
ดอก: ออกเป็นช่อ ช่อละ 5 – 10 ดอก มีทั้งดอกแบบชั้นเดียวและแบบดอกซ้อน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอก 3 – 5 cm. กลีบดอกคร้ายครึ่งวงกลม ปลายกลีบหยักเป็นแฉกลึก มีหลายสีเช่น สีขาว สีชมพู สีแดง สีม่วง และหลายสีในดอกเดียวกัน
ผล: ผลหุ้มอยู่ในโคนกลีบ ปลายผลหยักเป็นเลื่อย มี 4 ซีก สีแห้ง

ที่มา: ผีเสื้อ [2]

การขยายพันธุ์ การปลูก และการดูแล

ขยายพันธุ์: โดยการปักชำกิ่ง การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และโดยเมล็ด เป็นวิธีที่นิยมที่สุด
เมล็ด เป็นวิธีที่นิยมที่สุด โดยการนำเมล็ด มากลบด้วยแกลบบางๆ จะใช้เวลาประมาน 5 – 7 วัน ในการงอกออก เมื่ออายุครบ 18 – 25 วัน จึงย้ายกระถาง และดอกจะออกหลัง 2 – 3 เดือน
การปลูก และการดูแลรักษา:
ผีเสื้อชอบแสงแดดจัด อุณหภูมิกลางคืนเย็น แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเย็นมาก สามารถปลูกใน กรุงเทพฯ ได้ดินต้องมีความอุดมสมบูรณ์ มีธาตุอาหารครบครัน โปร่ง มีอินทรีย์วัตถุสูงถ้าต้องการดอก ที่มีขนาดสม่ำเสมอ ดอกดก และดอกบานพร้อมๆ กัน ควรจะเด็ดยอด โดยทำการเด็ดยอดเมื่อ ต้น สูงประมาณ 6 นิ้ว หรืออาจจะเด็ด หลังจากปลูกไปแล้วประมาณ 4 สัปดาห์

หลังจากนั้น แต่ละต้นจะแตกกิ่งก้าน ทำให้พุ่มต้นใหญ่ขึ้น ระยะเวลาจากเพาะเมล็ด ถึงให้ดอกประมาณ 3 เดือน

ประโยชน์ และสรรพคุณจาก ดอกผีเสื้อ

ดอกผีเสื้อ นอกจากความสวยงามที่ใช้เป็นไม้ดอกไม้ประดับตามสถานที่ต่างๆ เช่นเดียวกันกับ ดอกไวโอเล็ต

  • ใช้ตกแต่งจานอาหาร ขนม เบเกอรี่ และสามารถทานพร้อมกับอาหารได้โดยไม่ทำรสชาติอาหารเปลี่ยนไป

สรรพคุณ 

  • ทั้งต้น (มีรสขม) เป็นยาเย็น แก้ร้อนใน ออกฤทธิ์ต่อหัวใจ ไต กระเพาะปัสสาวะ และลำไส้เล็ก [3]

โรคที่พบได้บ่อยในต้นดอกผีเสื้อ

โรคที่พบได้บ่อย นั้นก็คือโรคใบเน่า เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา ที่มีผลต่อ ดอกผีเสื้อ โดยทำให้ ใบเปลี่ยนสี เป็นสีเหลือง มีจุดดำ และก็อาจถึงตายได้ หากไม่รักษา
การสังเกต อาการเหี่ยว และเหลืองบนใบ มีจุดสีน้ำตาล หรือดำ และมีส่วนที่เน่า ประสบการณ์มากๆ ที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็คือการที่เริ่มต้น จากขอบ หรือปลายใบ

รูปแบบการปลูกต้นผีเสื้อ

  •  ปลูกเป็นแนวยาว ขนาบริมทางเดิน หรือริมสนามหญ้า หรือนำไปจัดแต่งสวนในสไตล์ Pocket Garden ก็ได้
  • ปลูกแบบใส่กระถางวางเป็นชั้น การเปลี่ยนมาวางบนชั้น หรือเก้าอี้ต่างๆ ให้มีการเล่นระดับสูงต่ำ จะโชว์ความสวยงามได้อย่างเต็มที่ แบบไม่มีต้นไหน บังต้นไหนอีกด้วย
  • ปลูกแบบแขวนประดับ ควรปลูกดอกไม้ ในกระถางพลาสติก เพื่อที่จะได้มีน้ำหนักเบา สามารถแขวนตามมุมที่ต้องการ หากโดนลมพัดตกลงมาก็จะไม่แตกกระจาย ต่างจากกระถางดินเผา
  • ปลูกแบบทุ่งดอกไม้ ควรเว้นระยะห่างจากแต่ละต้น โดยการปลูกวิธีนี้ ควรปลูกในสวนที่มีขนาดพื้นที่เพียงพอ โดยไม่ควรปลูกต้นผีเสื้อ ให้แออัดกันจนเกินไป

 

คลิกเพื่ออ่าน รวมเคล็ดลับดูแลต้นผีเสื้อให้ดอกมีสีสัน พร้อมไอเดียจัดแต่งสวนแสนเก๋ ได้ที่นี่ condonewb

สรุป ดอกผีเสื้อ สวยจริง อร่อยจริง 

ดอกผีเสื้อ

สรุป ดอกผีเสื้อนั้น นอกจากเป็นไม้ประดับ ที่มีสีสันสวยงาม ยังเป็นที่นิยมนำมาใช้ใน การจัดตกแต่งสวนแล้วนั้น ในปัจจุบันยังได้รับความนิยม ในการนำมาใช้ ในการจัดจานอาหาร ช่วยตกแต่งอาหารให้ดูสวยงามน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น แถมยังมีสรรพคุณอื่นๆ ทางยาสมุนไพรอีกมากมาย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง